ตลุยบึงฉวาก สุพรรณบุรี


... ก่อนอื่นขอบอกว่า ใครที่คิดจะไปเที่ยวบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี ขอแนะนำให้ออกเดินทางจากกรุงเทพแต่เช้า เพราะว่าระยะทางไกลไม่ใช่เล่น ครั้งแรกที่ได้ยินคนบอกว่า บึงฉวากน่าเที่ยว อยู่จังหวัดสุพรรณบุรี ฟังดูก็ไม่น่าไกล สุพรรณบุรีอยู่แค่นี้เอง ถนนสาย 340 ก็เป็นถนนหลวงที่ปรับปรุงให้ใหม่อยู่ตลอดเวลา ทำให้คิดไปว่า ขับรถแป๊บเดียวคงถึง ... แต่ที่ถึงเร็วนั่นนะ คือ ตัวเมืองสุพรรณ นะจะบอกให้... ถ้า
จะไปให้ถึงบึงฉวาก ต้องขับรถจากตัวเมืองสุพรรณไปอีก 60 กว่ากิโลโน้น ... อยู่ติดกับ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท โน้นเลยจ้า รวมความแล้ว ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึง บึงฉวาก ก็ราวๆ 170 กิโลเมตร เห็นจะได้ (กรุงเทพ - สุพรรณ ประมาณ 100 กม. และ ตัวเมืองสุพรรณ ถึง บึงฉวาก ราวๆ 67 กม.)

เราออกเดินทางจากบ้านแถวประชาชื่น-นนทบุรี ราวๆ 9 โมงเช้า (สายนะเนี่ย) ไปตามเส้นทางที่ใกล้บ้านมากที่สุด นั่นคือ สะพานพระราม 5 โดยขับรถไปถึงสี่แยกแคราย เลี้ยวซ้าย ตามป้ายสะพานพระราม 5 ไปโลด จากนั้นขับไปเรื่อยๆ แล้วก็เปลี่ยนไปตามป้าย "บางบัวทอง" วิ่งฉิวๆๆๆ ไป พอเห็น
ป้ายบอกทางไป "สุพรรณบุรี" ที่แยกออกไปด้านซ้าย ทางหลวงหมายเลข 340 เราก็มุ่งหน้าตามป้ายนั้นไปโลดลิ่วเลย ถนนดีจริงๆ เหยียบคันเร่งไปได้สบายๆ แต่ขอบอกว่าถ้าเดินทางช่วงสายๆ แบบนี้ รถบรรทุกเยอะมากๆ

เดินทางถึงตัวเมืองสุพรรณบุรีราวๆ 10 โมงนิดๆ แวะสักการะ "ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง" จ.สุพรรณบุรี ใครที่จะมาสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ไปไม่ยากหรอก พอมาถึงตัวเมืองจังหวัดสุพรร
ณบุรี ก็มองหาป้ายบอกทางไปศาลเจ้าพ่อหลักเมือง แล้วก็ขับตามป้ายมาเรื่อยๆ หาไม่ยาก อยู่ติดถนนใหญ่

หลังจากที่กราบไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเรียบร้อยแล้ว ขับรถออกมา ก็ตามป้าย "บึงฉวาก" ซึ่งจะมีป้ายบอกทางตลอด ป้ายใหญ่ด้วย ถ้าใครพลาดป้ายบอกทางไปบึงฉวาก ก็สามารถตามป้ายบอกทาง "ชัยนาท" ได้ ... ไปทางเดียวกันนั่นล่ะ ไม่หลงหรอก .... พอเข้าถนนหลวงเส้นหลัก 340 ไปได้ ก็วิ่งโลดเลยนะ ตามป้าย "บึงฉวาก" ไปได้เลย มีป้ายบอกทางทุกๆ 10 กม. เห็นจะได้ ป้ายใหญ่โตสีน้ำเงิน ชัดเจนอยู่ริมถนนด้านซ้ายนะ ไม่ใช่เกาะกลางถนน เกาะกลางถนนจะเป็นหลักกิโลเมตร ของทางหลวง...

... ถึงที่หมายซะที เที่ยงพอดี ทำเวลาได้ไม่เบาที่เดียว ขับรถเรียบบึงมาเรื่อยๆ จะผ่านสวนสัตว์ เราไม่ได้แวะชม แต่ขับรถผ่านดู เห็นกรงลิง ม้าลาย นกชนิดต่างๆ เห็นมีกรงนกขนาดยักษ์ด้วยนะ ขับเรื่อยๆ มาตามทาง ก็ดูร่มรื่นดีนะ ผ่าน "อุทยานผักพื้นบ้านเพื่อการยังชีพ เฉลิมพระเกียรติบึงฉวาก" ... เดี๋ยวจะกลับมาแวะชมนะ ขับต่อไปจนถึง "สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ" ก็ยังคงไม่แวะ ขับต่อไปอีกนิดว่าจะมีอะไร ปรากฏว่า หมดแล้ว ... เลยต้องวกรถกลับ ... ลืมบอกไปว่า ริมทางที่ผ่านมามีร้านอาหารตลอดทางเลย ... วันนี้ ร้านอาหารดูเงียบเหงา ไม่มีคนเลย อาจจะเป็นเพราะเป็นวันจันทร์ เลยไม่ค่อยมีใครมาเที่ยว


กลับรถมา เลี้ยวเข้าที่จอดรถของ "สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ" ซึ่งมีที่จอดรถ 2 ส่วนนะ ลานจอดรถแบบตากแดด (ถึงก่อน ) กับ แบบในร่ม (เลยมาอีกนิด) ... เราเข้าจอดลานในร่ม สบาย ... แล้ก็เดินเข้าไปด้านใน ... พบกับ Food court ก่อนเลย ด้อมๆ มองๆ ทานอาหารเที่ยงดีกว่า ก็ซื้อคูปองอาหาร ทานพออิ่มท้อง ... ข้าวหมูแดงจานละ 20 บาท ... ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น ก็จานละ 20 บาท .... อิ่มกัน

... ได้เวลาซื้อตั๋วเข้าชมสัตว์น้ำ ผู้ใหญ่คนละ 30 บาทจ้า .. เห็นบอกว่าจะมีการแสดงนักประดาน้ำในตู้ปลาขนาดใหญ่ช่วง 13:30 น. จริงๆ มีหลายรอบนะ แต่เราพลากรอบ 12:00 น.ไปแล้ว

เดินเข้าไป ก็จะพบกับปลาหลากหลายชนิดในตู้กระจก มีป้ายบอกชื่อสายพันธุ์ มีปลาทะเลสีสันสวยงามให้ชมด้วย วันนี้ผู้คนบางตาจริงๆ ดี...ชอบๆๆๆ ไม่แออัด เดินเข้าไปบริเวณตู้ปลาใหญ่ เป็นอุโมงค์สั้นๆ ให้เข้าไปถ่ายภาพปลาได้





... เราเดินรีรออยู่นาน ไม่ถึง 13:30 ซะที เราเลยถอดใจ ไม่ดูแล้ว นักประดาน้ำ ... ออกไปดูจระเข้ดีกว่า

เดินออกจาก"สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ" เลี้ยวไปทางขวา จะพบป้ายบอกไปดูจระเข้ ... มีซุ้มขายเครื่องดื่ม 4-5 ซุ้ม ... มีอยู่ซุ้มหนึ่ง การตลาดดีเยี่ยม ใช้โทรโข่งเรียกลูกค้า ซุ้มนี้เค้าขาย "เฉาก๊วยชากังราว" แก้วละ 10 บาท หวานเย็นชื่นใจ ... เราแวะอุดหนุน 2 แก้ว หวานเย็นจริงๆ เนื้อเฉาก๋วยเหนียวนุ่มมาก อร่อยดี ... พอเราแวะซื้อ คนที่เดินอยู่แถวนั้น ก็แวะซื้อตามเยอะเลย ... ทานเฉาก๊วยชากังราว คลายร้อนไปได้บางเล็กน้อย

... เดินต่อไปตามป้าย "จระเข้" ... เป็นจระเข้น้ำจืด ตัวไม่ใหญ่มาก ทางเดินดูแข็งแรง มีรั้วเหล็กกั้น ไม่ให้คนตกลงไป ด้านล่างเป็นสนามหญ้า ... บ่อน้ำ มีจระเข้นอนอาบแดดหลายสิบตัว... มองไปมองมา เจอป้ายอยู่ป้ายหนึ่ง อ่านแล้วสะดุดตามาก เขียนว่า "จระเข้ทุกตัวโปรดทราบ ให้ผสมพันธุ์และวางไข่ในสถานที่ที่จัดไว้ให้" อื้ม! ... คนเรานี่ก็มีอารมณ์ขันดีนะ ... ที่ที่จัดไว้ให้นี้ คือห้องสำหรับวางไข่ มีป้ายบอก เห็นอยู่หลายห้องเหมือนกัน อิอิอิ จระเข้ที่นี่ คงได้รับการฝึกมาอย่างดี นะเนี่ย!





ถ่ายภาพ-เล่าเรื่องโดย: ครูเจี๊ยบ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านเหนือรุ่งอรุณ จ.พิษณุโลก

หมู่บ้านดอนมัน จ.มหาสารคาม

ตลาดเก่าอ่างศิลา 133 ปี ชลบุรี