อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง


ใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยว "เกาะสมุย" ในช่วงที่ลมฟ้าอากาศดีๆ ปราศจากพายุฝน ก็ขอแนะนำให้แบ่งปันเวลาซัก 1 วัน นั่งเรือไปเที่ยว "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง" ขอบอกว่าคุ้มค่าที่ได้ไปเยี่ยมเยียน ... แต่ถ้าใครไปช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ต้องบอกว่า โหดมันฮา! ยังไงยังงั้น นอกจากอากาศจะร้อนระอุแล้ว ผู้คนยังมืดฟ้ามัวดินอีกด้วย ...

จากการอ่านข้อมูลในเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้ความมาว่า "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง" เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งที่สอง ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 อยู่ห่างจากเกาะสมุยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 63,750 ไร่ เป็นพื้นดินเพียง 50 ตารางกิโลเมตร นอกนั้นเป็นพื้นน้ำ ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ 42 เกาะ ส่วนมากเป็นเกาะหินปูน เกาะที่สำคัญได้แก่ เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะวัวจิ๋ว เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะไผ่ลวก เกาะคา เกาะหินดับ เกาะวัวกันตัง ฯลฯ หมู่เกาะนี้เดิมเป็นเขตหวงห้ามของทหารเรือ แต่ก็ได้มีราษฎรอพยพไปตั้งบ้านเรือน โดยประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าว จับปลา และเก็บรังนก (บนเกาะมีสัมปทานรังนกนางแอ่น) การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองนี้ หากต้องการความสะดวกสบายหน่อย ก็คงต้องไปติดต่อบริษัททัวร์ที่ให้บริการนำเที่ยว ... สำหรับพลพรรคของเราที่เดินทางไปเยี่ยมเยือนครั้งหนึ่งนั้น ได้ซื้อทัวร์ของบริษัท ไฮเวย์ ทราเวล จำกัด (ถ้าจำไม่ผิด) ราคาคนละ 650 บาท รวมค่ารถรับส่ง เรือออกจากท่าเรือที่ "หน้าทอน" เวลา 08:30 น. กลับมาถึงเกาะสมุยราวๆ17:30 น. ... เป็นเรือโดยสารนั่งสบายๆ จะอาบแดด หรือ จะนั่งหลบแดดก็ได้ พวกเราเหล่าคนไทย ก็หลบแดดกันน่าดู ... แต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินี่ซิ วิ่งเข้าใส่แดดเลย ... ดีเหมือนกัน ไม่มาแย่งที่นั่งกะพวกเรา



เราใช้เวลาเดินทางอยู่บนเรือ กลางทะเลประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง แล้วก็มีแวะตามเกาะด้วยนะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าแวะเกาะไหนบ้าง คือว่าครั้งสุดท้ายที่ไปเที่ยวมาเนี่ยก็นานพอสมควรแล้วล่ะ เท่าที่จำความได้เด็ดๆ เลยก็มีอยู่ 2 แห่ง คือ ทะเลใน หรือ ทะเลสาบกลางภูเขา ซึ่งอยู่บนเกาะแม่เกาะเป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาโดยเกิดจากแอ่งหินปูนที่ยุบตัว ทะเลในมีลักษณะเป็นวงรี กว้าง 250 เมตร ยาว 350 เมตร ลึก 7 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ... ตอนที่เราเดินทางไปถึงทะเลในเนี่ย มีตื่นเต้นเล็กๆ เพราะต้องลงเรือหางยาวกัน เรือหางยาวก็ไม่เล็กมากนะ นั่งได้แถวละประมาณ 3 คน จำนวนแถวจำไม่ค่อยได้ว่ามีกี่แถว แต่น่าจะถึง 10 แถวล่ะ ... พอถึงฝั่ง ก็ต้องกระโดดลงน้ำเปียกปอนกันเล็กน้อย มันส์ ! จากนั้นก็ต้องเดินเท้าตามทางเดินสู่จุดชมวิวอีก 400 เมตร จะเห็นทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจของทะเลในสีเขียวมรกต เห็นปลาเข็มตัวโตๆ ด้วยนะ รวมทั้งเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเปิดซึ่งโอบรอบด้วยโขดเขาและแมกไม้


เกาะวัวตาหลับ เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าที่ทำการเป็นหาดทรายขาวสะอาดและใกล้ที่ทำการอุทยานฯ ... เรือใหญ่ที่เรานั่งมาก็ไม่สามารถเทียบท่าใกล้กับฝั่งได้ พวกเราก็ต้องลงเรือหางยาวอีกเช่นเคย ก็สนุกไปอีกแบบนะ ... บนเกาะแห่งนี้ มี ถ้ำบัวโบก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายบัวบาน ถัดไปมีทางเดินขึ้นไปยัง จุดชมวิว บนยอดเขา ระยะทางเดินประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวไปบนพื้นน้ำสีครามเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม


สำหรับใครที่ไม่แข็งแรงพอ หรือมีโรคประจำตัว ก็ไม่ควรปีนขึ้นไปชมวิวบนเกาะวัวตาหลับนี้ เพราะหนทางที่ปีนขึ้นเขาไปจุดชมวิวนั้น ค่อนข้างหฤโหด ไม่ใช่ทางเดินสบายๆ ต้องมีการปีนป่ายไปตามหินผาด้วย แต่ถ้าใครต้องการจะปีนขึ้นไป เพราะไหนๆ ก็ไปจนถึงสถานที่นี่แล้ว แนะนำให้ลองปีนขึ้นไปที่จุดชมวิวจุดแรก ซึ่งก็พอเห็นวิวสวยงามเหมือนกัน สามารถมองรอดผ่านทิวมะพร้าว ... เห็นหาดทรายสีขาว มีเรือจอดอยู่ริมหาด ... ส่วนใครที่แข็งแรงพอก็ปีนต่อไปได้ แต่ต้องขอบอกว่าช่วงสุดท้ายของการขึ้นสู่จุดชมวิว ซู๊ดยอด! จริงๆ หน้าผาชันๆ ใครขาสั้น จะปีนยากมาก คิดถึงแล้วยังเสียวไส้อยู่เลย ปีนขึ้นไปได้ไงไม่รู้ ... แต่พอผ่านจุดนี้ขึ้นไปได้ มองลงมาด้านล่าง .... ขอบอกว่า "คุ้มจริงๆ" เพราะจะได้เห็นวิวของหมู่เกาะอ่างทองทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวไปบนพื้นน้ำสีครามเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม


ขั้นตอนที่ 4: การพิมพ์ข้อความลงบนรูปภาพ .. การที่ได้ปีนขึ้นไปยังจุดชมวิวสูงสุดของเกาะวัวตาหลับนี้ ขอบอกว่าโหด แต่คุ้มค่า เพราะจะได้นั่งดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่งดงาม ยิ่งถ้าไปวันที่ฟ้าเปิด ท้องฟ้าสดใส ตัดกับท้องทะเลสีคราม คงหายเหนื่อยแน่นอน ... แต่วันที่เราไปนั้น ท้องฟ้าจะหม่นๆ เพราะว่ามีฝนน่ะ เสียดายจริงๆ

ถ่ายภาพและเล่าเรื่องโดย: ครูเจี๊ยบ
ที่มาข้อมูล: เว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บ้านเหนือรุ่งอรุณ จ.พิษณุโลก

หมู่บ้านดอนมัน จ.มหาสารคาม

ตลุยบึงฉวาก สุพรรณบุรี